วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

แจกแคปชั่น เซิร์ฟสเก็ต สเก็ตบอร์ด ฮิตสุดในเวลานี้

 


แคปชั่นเซิร์ฟสเก็ต

  • เล่นไม่เป็นเน้นออฟชั่น
  • เล่นไม่เป็นแต่เน้นอุปกรณ์
  • ปั่นกันจังนี่เซิร์ฟสเก็ตหรือจักรยาน
  • สเก็ตมีไว้ไถหัวใจมีไว้ดูแล
  • ท่าพลาดคือท่าชัวร์ท่าเจ็บตัวคือท่าประจำ
  • แผ่นก็ช่วยประกอบ เธอบอกเป็นแค่พี่น้อง
  • ไม่อยากขึ้นบอร์ด อยากขึ้นเธอ
  • snap อย่างเท่ห์เบลคทีหัวทิ่มกลิ้งไปนอนกับหมา
  • ล้มไม่ว่าแต่หน้าต้องได้
  • ล้มไม่ช่วยให้ลืม
  • สอนตั้งแต่ไถยังไม่ติด ทำไมกลับบอกว่าคิดแค่พี่น้อง
  • เล่นล้มให้ลืมเธอ
  • เซิร์ฟอย่างสิงห์กลิ้งอย่างหมา
  • โยกไม่ดีโทษบอร์ดโทษทาง
  • เล่นในห้างอย่างเฟี้ยว เจอยามแล้วเลี้ยวอย่างลน
  • บอร์ดที่ว่าหนา ยังไม่สู้หน้าของผู้นำ
  • ถึงน้องจะเล่นไม่ดี แต่เอวดี ลองได้
  • เจ็บจากล้มบอร์ดแค่ได้เธอมากอดก็หายแล้ว
  • ผัวไถเมียถ่าย
  • ปลาใหลใส่สเก็ต ยังไม่เด็ดเท่าเธอสแน็ป
  • เปย์ค่าบอร์ดอย่างสู้ เปย์ให้หนูอย่างบ่น
  • ตกบอร์ดจนขาหัก เจ็บไม่หนักเท่าเธอไม่แคร์
  • จะเล่นให้เฟี้ยวต้องเลี้ยววงแคบ
  • สอนหนูเล่นsurf อ่ะเข้าใจแต่มากดเลิฟให้ด้วยนี้ยังไงอ่ะ
  • เก็บสะโพกไว้โยกกับแผ่นที่ใช่
  • เซิร์ฟสเก็ตมีไวไถ ส่วนหัวใจมีไว้รัก
  • บอร์ดเพื่อน เราเท่
  • ก่อนเป็นโปรสเก็ต กูตกสะเก็ดมาก่อน
  • ภายใต้ท่าสวยๆ เต็มไปด้วยความปวดร้าวที่ต้นขา
  • เห็นงานจะเป็นลม ได้เล่นเซิร์ฟเก็ตละสู้ตาย
  • วัตถุเอวไว
  • ลงพื้นครั้งเดียวเสียวทั้งคืน
  • อยากจะเฟี๊ยวเลี้ยวยังไม่เป็น
  • บอร์ดไม่แพงแรงไม่มี
  • บนแผ่นอย่างพริ้วแต่ใช้นิ้วอย่างกาก
  • เอวดีให้ตาย แพ้โอนไวอยู่ดี
  • ย่อๆ ยืดๆ ลื่นพรึ่ดได้ไง
  • เรื่องที่เปลี่ยนมีแค่ทรัค เรื่องความรักไม่มีเปลี่ยน
  • ทรัคอะไรก็ได้เธอ แต่ "ทรัคไม่เรอ" เราไม่เอา
  • บอร์ดก็ไม่มี หน้าตาดีไปวันๆ
  • ที่ใดมีทรัค​ สักพักมีสเก็ต
  • กว่าจะได้บอร์ดคงมีนา กว่าจะได้เธอมาต้องมีเงิน
  • มีแค่ทรัคกับล้อมันเลยท้อกับรัก
  • เล่นกับแลมป์ระวังจะเสียหลัก เล่นกับรักระวังจะเสียใจ
  • แม้ไม่ได้ครอบครอง..ได้เเค่มองผ่านเเว้บๆ ก็ยังดี
  • เล่นสเก็ตจนเอวเคล็ด แต่เธอบอกไม่ใช่สเป็ค
  • ต้องเซิร์ฟเก่งแค่ไหนถึงได้หัวใจเจ้าของโพสต์
  • ยอมแล้วทูลหัว อยากมี_วเล่น surfskate
  • ถ่ายรูปยังกะเปิดสตู ป่าวหรอกยืนดูกลัวแผ่นเป็นรอย
  • ถึงจะเล่นเซิร์ฟอ่อนไปหน่อย แต่ผมอร่อยขอบคุณครับ
  • ไถด้วยกันมาเป็นปี โถ่คนดีไปกับหนุ่มสเก็ต
  • ไม่อยากได้แล้วบอร์ดอยากได้คนมากอดมากกว่า
  • ไถสเก็ตก็เพ้อ จีบเธอก็แพ้
  • ไถ skate ล้มแค่เจ็บตัว ไถไอจีเธอลงรูปคู่_ัวแหมมันเจ็บใจ
  • เล่นน้อย...แต่ร้อยรูป
  • เล่นอย่างโปร น่องโตได้อย่างไร
  • เท้าหน้าให้ยืนหลังหมุด แต่ถ้าชอบเธอสุดๆ ให้เราไปยืนตรงไหน

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ข้อควรรู้ก่อน มาสก์หน้า ให้ผิวใส ผิวผ่อง




1.ไม่ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนมาสก์หน้า

การไม่ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนมาสก์หน้า ไม่เพียงแต่การบำรุงผิวจะไม่ได้ผลเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมา โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสิว เนื่องจากในแต่ละวันผิวหน้าต้องเผชิญกับสิ่งสกปรกมากมาย ดังนั้นจึงควรล้างหน้าก่อนมาสก์หน้าทุกครั้ง เพราะถือเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนบำรุงนั่นเอง


2.โบกครีมมาสก์หน้าเยอะเกินไป
อย่างที่ทราบกันดีว่า อะไรก็ตามที่มากไปก็ย่อมไม่เกิดผลดี เช่นเดียวกับการมาสก์หน้า ไม่ควรโบกครีมเยอะเกินไป เพราะจะก่อให้เกิดผื่นคัน สิว และอาการแสบผิวได้ เนื่องจากมาสก์หน้าบางยี่ห้อมีส่วนผสมที่เข้มข้นซึ่งเพียงพอต่อปริมาณการใช้ที่กำหนดไว้แล้ว

3.มาสก์หน้านานเกินไป
ยิ่งมาสก์หน้านาน ยิ่งดีต่อผิว ความเข้าใจผิดนี้ก่อให้เกิดปัญหาผิวจากการมาสก์หน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากการมาสก์หน้านานจะทำให้แผ่นมาส์กดึงเอาความชุ่มชื้นจากผิวออกไปหมด ก่อให้เกิดผิวแห้งและระคายเคือง


4.มาสก์หน้าหลายประเภทในเวลาเดียวกัน
มาส์กแต่ละประเภทมีระยะเวลาในการมาส์กไม่เท่ากัน เช่น มาส์กบริเวณแก้ม ทีโซน และรอบดวงตา ล้วนมีระยะเวลาในการมาส์กที่ถูกต้องและระบุไว้แล้ว ดังนั้นการใช้มาส์กหลายประเภทในเวลาเดียวกัน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้

5.มาสก์หน้าหลังรักษาผิวหน้า
ในกรณีที่ผิวหน้าเพิ่งผ่านการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการกดสิว ร้อยไหม ฉีดโบท็อกซ์ หรือเลเซอร์ก็ตาม ไม่ควรมาสก์หน้าเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและเกิดการอักเสบตามมาได้

6.ล้างหน้าทันทีหลังมาสก์หน้า
หลังมาสก์หน้าเสร็จไม่ควรเช็ดออกหรือล้างหน้าเพื่อกำจัดความเหนียวเหนอะหนะทันที แต่ควรนวดหน้าเบาๆ เพราะวิธีนี้ช่วยให้ครีมจากแผ่นมาส์กซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม


7.ไม่บำรุงผิวหลังมาสก์หน้า
แม้การมาสก์หน้าช่วยบำรุงผิว ก็ควรทามอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มเติมหลังมาสก์หน้าด้วย เพราะเป็นการล็อกความชุ่มชื้นให้กับผิวได้นาน แถมยังช่วยทำให้ผิวแลดูอิ่มน้ำและสุขภาพดีอีกด้วย


8.ไม่ทาครีมกันแดดหลังมาสก์หน้าตอนเช้า
สำหรับสาวๆ ที่ชอบมาสก์หน้าในตอนเช้า ไม่ควรลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาด เพราะแผ่นมาสก์หน้าส่วนใหญ่ไม่มีส่วนผสมของสารกันแดด ที่สำคัญครีมกันแดดคือไอเท็มสำคัญที่สาวๆ ควรใช้ในทุกวัน

วิธีทำ"ข้าวผัดกะเพรา" (ของแท้) เมนูธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา

เคยไหมคะ สั่งผัดกะเพราหมูแต่ได้ผัดถั่วฝักยาวมาแทน หรือแม้แต่กว่าจะตักเข้าปากได้แต่ละคำก็ต้องใช้เวลาเขี่ยพริกควานหาหมูสับอยู่นาน แต่มื้อนี้ไม่ต้องแล้วค่ะเพราะเราจะมาทำข้าวผัดกะเพราหมูสับแบบของแท้ กะเพราจริง ๆ ไม่อิงผักใด ๆ ด้วยวิธีง่าย ๆ แต่ทำให้อร่อยได้ทุกคำที่ตักเข้าปาก รับประทานกับไข่ดาวกรอบ ๆ โอ่ยยยย สวรรค์เลยค่ะ




วัตถุดิบเมนูข้าวผัดกระเพรา

  • หมูสับ 500 กรัม (มีแบ่งส่วนหนึ่งทำเป็นกับข้าวด้วยนะคะ ไม่ได้ใช้ทำข้าวผัดกะเพราทั้งหมด)
  • กะเพรา ปริมาณตามชอบ
  • พริกแห้ง 100 กรัม
  • กระเทียม 100 กรัม
  • ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วดำ ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำข้าวผัดกะเพรา

1.นำพริกแห้งกับกระเทียมตำ ๆ เตรียมไว้ ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใครจะกินกับไข่ดาว ใช้น้ำมันทอดไข่ดาวแบบที่ชอบก่อนเลยค่ะ จากนั้นนำพริกกระเทียมมาผัดให้หอมฉุน จากนั้นใส่หมูสับลงไปเลยค่า

วิธีทำข้าวผัดกะเพรา

2.เมื่อหมูสับเริ่มสุก ใส่ซอสปรุงรสต่าง ๆ ลงไปค่ะ ใช้น้ำประมาณหนึ่งทัพพีกลั้วครก เราจะใช้น้ำล้างพริกกับกระเทียมที่ติดครกอยู่มาใส่ในกระทะค่ะ จากนั้นแต่งสีด้วยซีอิ้วดำ ผัด ๆ ๆ แล้วใส่ใบกะเพราลงไป ใส่แล้วปิดไฟเลยค่ะผัดแค่พอผักสลด จากนั้นตักออกจากกระทะ แบ่งไว้ในกระทะส่วนหนึ่งแล้วนำข้าวเปล่าลงไปผัดคลุดกเคล้าให้เข้ากันค่ะ

วิธีทำข้าวผัดกะเพรา

มาแล้ว ๆ ข้าวผัดกะเพราของแท้แน่นอน นำข้าวที่คลุกไว้ในกระทะใส่จานราดผัดกะเพราอีกส่วนลงไปอีกที มีไข่ดาวขอบกรอบพร้อมไข่แดงยางมะตูม  เติมน้ำพริกน้ำปลาหน่อย  โอ่ววววววว อร่อยเว่อร์  ลองทำดูนะคะทุกคนรับรองตักเจอหมูและกะเพราทุกคำแน่นอนค่า  

วิธีทำข้าวผัดกะเพราCr. เมนูอาหาร

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

วิธีทำ แกงฮังเล สูตรคนบ้านทุ่งคิดถึงล้านนา

 




วัตถุดิบ

วิธีทำแกงฮังเล

  • หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
  • พริกแกงฮังเล 120 กรัม
  • มะม่วงเปรี้ยวหั่นซอย 1 ผล
  • ขิงซอย 100 กรัม
  • หอมแดง 10 หัว
  • กระเทียมแกะกลีบลอกเปลือก 3 หัว
  • ถั่วลิสงคั่ว (ไม่ติดเปลือก) 100 กรัม
  • น้ำตาลมะพร้าว 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 2 ช้อนชา

วิธีทำแกงฮังเล

1.นำหมูสามชั้นลงไปผัดในกระทะโดยไม่ต้องใส่น้ำมันใด ๆ ค่ะ พอหมูมีน้ำมันออก รอบนอกของหมูเริ่มสุกเหลืองจึงใส่พริกแกงลงไปผัดให้ทั่ว เติมน้ำลงไปราว 500 มิลลิลิตร (1 ใน 3 ของน้ำเปล่าขวดใหญ่) คนให้เข้ากันดี ตั้งไฟต่อไปจนเดือดค่ะ

2.เมื่อเดือดแล้วหรี่ไฟ จากนี้ให้ใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป ที่บ้านใช้น้ำตาลมะพร้าวน้ำหอมค่ะ ใครไม่มีใช้น้ำตาลปี๊ปแทนได้นะคะ ส่วนทางเหนือใช้น้ำตาลอ้อย แต่ละชนิดให้รสหวานแตกต่างกัน เลือกตามชอบและความสะดวกได้เลยค่ะ ตามด้วยหอมและกระเทียม

3.จากนั้นใส่มะม่วงซอยลงไปค่ะ ทางเหนือใช้มะขามเปียก บางท้องถิ่นใช้ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น กระท้อน แต่บ้านเรามะม่วงเยอะเลยขอใช้มะม่วงเปรี้ยวแทนค่ะ หาง่าย เนื้อนี่ละลายไปกับน้ำแกงจนให้รสชาติดีเลยล่ะ

4.ใส่ขิงซอยลงไป แล้วใช้ไม้พายคนผสมให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นผิดฝาหม้อไว้ ตั้งไฟอ่อนเพื่อให้หมูอ่อนนุ่ม ประมาณ 20 นาทีน้ำแกงเริ่มงวดลง ให้เติมน้ำและปิดฝาจนน้ำแกงงวดอีกครั้ง ระหว่างนั้นใช้ไม้พายค่อย ๆ ขูดก้นกระทะรอบ ๆ ด้าน ป้อนกันเครื่องแกงไหม้ติดก้นกระทะค่ะ (ใช้ไม่พายทำให้ส่วนผสมไม่เละค่ะ)

5.พอน้ำเริ่มงวดจนได้ที่ดีแล้ว ใช้ไม้พายคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน พร้อมตักเสิร์ฟได้ สุดท้ายเตรียมข้าวเหนียวข้าวสวยรอเลยค่า

วิธีทำแกงฮังเล

เรียบร้อยแล้วค่ะ แกงฮังเล สูตรคนบ้านทุ่งคิดถึงล้านนา ใช้วัตถุดิบหาง่าย ลดทอนขั้นตอนดั้งเดิมไปพอสมควร แต่คงครบรสเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด หมูนุ่มเด้ง ช้อนตักเบา ๆ ก็เข้าเนื้อ เน้นน้ำแกงแบบขลุกขลิกข้น ๆ จิ้มข้าวนึ่งติดดี กินกับข้าวสวยก็อิ่มหมีพลีมันขน๊าด ใครสนใจหรือคิดฮอดเมืองเหนือ ลองยะดูเน้อ ล้ำแต้ ๆ เจ้า

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

วิธีทำ ห่อหมกปลาช่อนใบยอ ทำกินเองก็ง่าย ทำขายก็รวย

 


ห่อหมก เป็นตัวเลือกแรกเมื่อได้ปลาช่อนตัวใหญ่มาใหม่ ๆ เพราะปลาสด ๆ ถึงจะเหมาะกับเมนูหลากหลาย แต่การปรุงสุกด้วยวิธีการนึ่งให้อร่อยแต่เผ็ดกลมกล่อมก็อดนึกถึงห่อหมกปลาช่อนใส่ใบยอฝีมือคุณแม่ไม่ได้ คราวนี้มีโอกาสเข้าครัวเป็นลูกมือแม่ครัวประจำบ้าน เลยแอบส่องสูตรและวิธีทำห่อหมกแสนอร่อยมาแชร์กับเพื่อน ๆ ชาวสนุกให้ลองทำ มันง่ายมากเลย

วัตถุดิบ 

  • พริกแกงเผ็ด ½ กิโลกรัม
  • ปลาช่อนหั่นชิ้น 3-4 ตัว
  • กะทิ​ (แยกหัวกะทิ)​ 1 กิโลกรัม
  • ไข่ไก่​ 8 ฟอง
  • น้ำปลา 2 ทัพพี
  • ใบยอ
  • ใบมะกรูดซอย
  • ​พริกชี้ฟ้าแดง ​
  • กระทงใบตอง

           

วิธีทำห่อหมก

1.เริ่มจากทำความสะอาดเนื้อปลาให้ลดกลิ่นคาวก่อนนะคะ คุณแม่ใช้วิธีเคล้าเกลือเม็ดเพื่อดับคาวแล้วล้างน้ำสะอาดจนหมดเมือกค่ะ บางบ้างใช้สารส้ม หรือนำไปลวกในน้ำเดือดก็ได้เหมือนกันค่ะ

2.นำพริกแกงเผ็ด เคล้าผสมกับน้ำกะทิทั้งส่วนหัวกะทิและหางกะทิเลยค่ะ แต่ให้แบ่งส่วนหัวกะทิไว้โรยหน้าห่อหมกสักหนึ่งถ้วยนะคะ เพื่อความหอมมันนั่นเองค่ะ

3.จากนั้นตอกไข่ไก่ใส่ลงไปทั้งหมด ผสมให้เข้ากัน แม่บอกว่าใช้ไข่เป็ดก็ได้ค่ะ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาเพียงอย่างเดียว บางสูตรใส่น้ำตาลปี๊ป แต่คุณแม่แนะนำว่ากะทิคั้นสดกับปลาสด ๆ มีความหวานในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องใส่ก็ได้ ห่อหมกปลาควรได้รสเค็มมากกว่า แต่หากใครชอบรสหวานก็ใส่ได้ค่ะ ไม่มีผิดถูก

4.เมื่อผสมได้ที่แล้วให้ใส่เนื้อปลาลงไป จากนั้นคนเนื้อปลากับน้ำแกงไปเรื่อย ๆ สักพักนะคะ เพื่อให้น้ำกะทิซึมเข้าเนื้อปลา จะช่วยให้ปลาในห่อหมกมีเนื้อนุ่มอร่อยมากขึ้นค่ะ

5.ระหว่างทิ้งระยะให้เนื้อปลาอิ่มน้ำกะทิ ก็หันมาเย็บกระทงใบตองกันค่ะ คุณแม่ไม่ได้กรีดใบตองเป็นวงกลม แต่ฉีกเป็นสีเหลี่ยมแล้วใช้ไม้กลัด กลัดสี่มุมเท่านั้นค่ะ บางคนอาจมองว่าดูรุ่ยร่าย ไม่เรียบร้อย แต่ก็มีเสน่ห์นะคะ

วิธีทำห่อหมกปลาช่อนใบยอ

กระทงใบตองของแม่ที่ใส่ใบยอรองพื้นเรียบร้อย และห่อหมกที่ผสมเสร็จแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

6.เตรียมกระทงเสร็จแล้ว ใส่ใบยอรองพื้น มากน้อยตามชอบเลยนะคะ จากนั้นนำไปเรียงในซึ้งหรือหม้อนึ่งเตรียมไว้ก่อน

7.เรียงไว้เสร็จแล้วค่อยใส่เนื้อปลาลงไป จากภาพ สี่กระทงก็แน่นหม้อเลยค่ะ เพราะที่บ้านเน้นปลาชิ้นใหญ่ ใส่ทั้งชิ้นพร้อมหัวปลาของโปรดของสมาชิกในบ้านด้วยค่ะ อิ่มแน่น ๆ ค่ะมื้อนี้

8.แบ่งเนื้อปลาและน้ำแกงให้พอเหมาะกับกระทงแล้ว ให้ซอยใบมะกรูดโรยหน้าแต่ละกระทง แล้วปิดฝานึ่งเลยค่ะ

วิธีทำห่อหมกปลาช่อนใบยอ

ขั้นตอนก่อนนึ่ง

9.นึ่งในน้ำเดือดไฟแรงประมาณ 20 นาที จากนั้นเปิดฝานึ่งออกแล้วราดหัวกะทิลงไปในแต่ละกระทง ตามด้วยการนำพริกชี้ฟ้าแดงหั่นตามยาวโรยหน้าให้มีสีสันค่ะ

วิธีทำห่อหมกปลาช่อนใบยอ

ใกล้หม่ำได้แล้วค่า

10.ปิดฝานึ่งต่ออีกราว 10 นาที ลองเปิดฝาหม้อแล้วใช้ช้อนตักดูเนื้อว่าสุกดีหรือไม่ ถ้าสุกดีแล้วก็ตักข้าวพร้อมหม่ำได้เลยค่ะ

วิธีทำห่อหมกปลาช่อนใบยอ

วิธีทำห่อหมกปลาช่อนใบยอ

วิธีรักษาสิวด้วยว่านหางจระเข้ สูตรดูแลผิวต้องมีติดบ้าน

 

ว่านหางจระเข้ ดีต่อผิว

ว่างหางจระเข้ สรรพคุณด้านความงาม ไม่ว่าจะเป็นการรักษาสิว ขจัดรังแค หรือการขัดผิวสวยก็ตาม ซึ่งเราก็มีเคล็ดลับความงามจากว่านหางจระเข้มาฝากกัน ดังนี้

  • บรรเทาอาการแสบร้อนจากผิวไหม้แดด

เมื่อผิวเกิดอาการแสบร้อนจากการโดนแดดนานๆ ก็สามารถบรรเทาได้ด้วยว่านหางจระเข้เช่นกัน เหมือนเวลาที่เราโดนน้ำร้อนลวก แล้วนำวุ้นของว่านหางจระเข้มาทาเพื่อบรรเทาอาการแสบและลดอาการพุพองนั่นแหละ โดยสำหรับการบรรเทาอาการผิวไหม้แดดนั้น ก็ใช้วิธีเดียวกันเลย แต่แนะนำให้นำวุ้นว่านหางจระเข้ไปแช่เย็นก่อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นนั่นเอง

  • หน้าใส ไร้สิว พร้อมลดรอยแผลจากสิว

ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการรักษาสิว ซึ่งจะทำหน้าที่ในการลดสิวและลดการอักเสบของสิวได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังช่วยลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวให้ดูจางลงได้อีกด้วย ที่สำคัญคือมีความปลอดภัยและสามารถรักษาสิวให้หายได้อย่างรวดเร็วทันใจ หมดกังวลเรื่องการแพ้จากการรักษาสิวด้วยยาแต้มสิวไปได้เลย

  • ขจัดรังแค พร้อมบำรุงผมสวย

เป็นรังแคไม่ต้องกังวล ว่านหางจระเข้ช่วยคุณได้ ด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ จึงไม่ทำให้หนังศีรษะแห้ง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดรังแคนั่นเอง อีกทั้งยังช่วยลดอาการคันบนหนังศีรษะ และทำให้ผมสวยอีกด้วย ใครที่มีปัญหารังแคมากวนใจ ลองใช้ว่านหางจระเข้ดูสิ รับรองได้ผลลัพธ์สุดทึ่งเชียวล่ะ

  • ขัดผิวสวย เพิ่มความกระจ่างใส

ว่านหางจระเข้ เมื่อนำมาขัดผิว จะทำให้ผิวมีความขาวกระจ่างใสและเรียบเนียนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอ่อนเยาว์น่าสัมผัสอีกด้วย เพราะฉะนั้นสาวๆ คนไหนที่อยากมีผิวสวย ไม่ต้องซื้อครีมขัดผิวราคาแพงมาใช้ให้สิ้นเปลือง ให้ว่านหางจระเข้เป็นตัวช่วยของคุณสิ แล้วผิวจะดูสวยใสไม่แพ้การใช้ครีมขัดผิวอย่างแน่นอน


อโลเวล่าเจล คอลลาเจน มี 3 สูตร 100 กรัม

100 บาท

5 เคล็ดลับรักษาสิวด้วยว่านหางจระเข้

สูตรรักษาสิวที่ 1 ว่านหางจระเข้ + น้ำผึ้ง + ไข่ขาว

วิธีผสม เริ่มแรก ให้เรานำเอาไข่ขาว 1 ฟองมาแยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน เพราะเราจะใช้แค่เพียงไข่ขาวอย่างเดียว จากนั้นก็เติมน้ำผึ้งลงไปในถ้วยที่เราได้แยกไข่ขาวเอาไว้ประมาณ 2 ช้อนชา และใส่วุ้นว่านหางจระเข้อีกประมาณ ¼ ถ้วยตวง ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

วิธีใช้ ให้สาวๆ ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้ง จากนั้นก็นำเอาส่วนผสมที่เตรียมเอาไว้มาพวกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น สูตรว่านหางจระเข้รักษาสิวสูตรนี้จะช่วยให้ใบหน้าขาวใส ขจัดความมันได้ อีกทั้งก็ยังช่วยลดสิวที่เกิดขึ้นบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี

สูตรรักษาสิวที่ 2 ว่านหางจระเข้ + น้ำมันมะกอก + ไข่แดง

วิธีผสม ขั้นแรกให้นำเอาว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกและล้างให้สะอาด จากนั้นก็เอาวุ้นที่ได้มาผสมให้เข้ากันกับไข่แดงที่เราได้แยกเอาไว้ และปิดท้ายด้วยการเติมน้ำมันมะกอกก็เป็นอันเสร็จ

วิธีใช้ นำส่วนผสมที่เราได้เตรียมไว้มาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรรักษาสิวสูตรนี้จะเหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวหน้าแห้ง อีกทั้งยังช่วยขจัดจุดด่างดำบนใบหน้า รักษาสิว ช่วยให้ผิวหน้าของเรามีความชุ่มชื้น รวมถึงยังช่วยป้องกันฝ้าได้เป็นอย่างดี

สูตรรักษาสิวที่ 3 ว่านหางจระเข้ + ขมิ้น + นมสด

วิธีผสม สูตรนี้ผสมไม่ยาก เพียงนำเอานมสดใส่ลงไปในถ้วยที่เตรียมไว้ประมาณ 3 ช้อนชา จากนั้นจึงให้ใส่ว่านหางจระเข้ผสมลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยผงขมิ้น 2 ช้อนชา แล้วผสมให้เข้ากันก็เป็นอันเสร็จ

วิธีใช้ นำส่วนผสมที่ได้มาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เมื่อครบตามเวลาที่กำหนดแล้วก็ล้างออกให้สะอาด สูตรนี้ช่วยรักษาการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง ขาวกระจ่างใส ลดความมันบนใบหน้า

สูตรรักษาสิวที่ 4 พอกหน้าด้วยว่านหางจระเข้

วิธีนี้เรียกได้ว่าเป็น Back to Basic เพราะมันช่างง่ายแสนง่าย เพียงแค่สาวๆ นำเอาว่านหางจระเข้สดๆ มาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นก็นำวุ้นว่านหางจระเข้ที่ได้มาปั่นให้ละเอียด เสร็จแล้วก็ให้นำมาทาบางๆ ให้ทั่วใบหน้า หรืออาจจะแต้มเฉพาะบริเวณหัวสิวก็ได้ ทำเป็นประจำก่อนนอนแล้วค่อยมาล้างออกในตอนเช้า จากหน้าที่เต็มไปด้วยสิวก็จะค่อยๆ ลดลงจนหายไปอย่างหมดจด

สูตรรักษาสิวที่ 5 ว่านหางจระเข้ + ไข่ขาว + ดินสอพอง

วิธีผสม นำเอาว่านหางจระเข้ที่ปอกเปลือกและล้างให้สะอาดมาบดละเอียดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นให้ผสมไข่ขาวลงไปในว่านหางจระเข้ที่เตรียมไว้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ปิดท้ายด้วยการใส่ดินสอพองลงไปอีก 3 ช้อนชา ผสมให้เข้ากันก็เป็นอันเสร็จ

วิธีใช้ นำเอาส่วนผสมที่เราเตรียมไว้มาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด โดยสูตรนี้จะช่วยลดความมันบนใบหน้าที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี อย่าลืมหมั่นทำเป็นประจำด้วยล่ะ

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

วิธีทำ "ยำขนมจีน" สูตรทูน่าผัดกระเทียม แจกสูตรทำขายได้

 ยำขนมจีน ไม่ได้เป็นแค่เมนูกินเล่นหรือกับแกล้ม แต่อาจกลายเป็นเมนูจานหลักสำหรับสายยำหรือสายคุมอาหารเพราะทำง่ายแถมแคลรอรี่ต่ำ ครั้งนี้เลยอยากชวนมาลองทำยำขนมจีนสูตรใหม่ เปลี่ยนส่วนผสมบางชนิดอย่างกระถินและถั่วฝักยาวเป็นผักหาง่ายกลิ่นไม่แรงแต่ยังให้ความกรุบกรับเวลาเคี้ยว และเปลี่ยนรสชาติของปลาทูเป็นปลาทูน่ากระป๋องผัดแห้ง ๆ สูตรนี้เน้นวัตถุดิบหาง่าย แต่รับรองว่าอร่อยเด็ด! ทำกินเองไม่ยาก ทำขายได้อีกด้วย

วัตถุดิบยำขนมจีนวัตถุดิบยำขนมจีน

วัตถุดิบ

  • ขนมจีน 3 จับ
  • ปลาทูน่า 2 กระป๋อง
  • กระเทียมเจียว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วพู 5 ฝัก
  • แตงกวา 2 ลูก
  • น้ำปลาร้าต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ (เตรียมไว้อีก 1 ซีก)

วิธีทำยำขนมจีน

  1. นำทูน่ากระป๋องลงไปรวนในกระทะให้แห้งก่อนนะคะ ระหว่างนั้นบีบมะนาวลง 1 ซีก และน้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ เมื่อทูน่าแห้งดีแล้วจึงเทกระเทียมเจียวลงไปผัดรวมกันจนได้กลิ่นหอม
    วิธีทำยำขนมจีน
  2. ปรุงน้ำยำโดยนำส่วนผสมทั้งน้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น และน้ำตาล คนผสมจนน้ำตาลละลาย
    วิธีทำยำขนมจีน
  3. คลุกผสม โดยใส่เส้นขนมจีนก่อนให้เส้นคลายออกจากกัน จากนั้นเติมผักและทูน่าที่ผัดแล้วลงไป แล้วก็ยำ ยำ ยำ
    วิธีทำยำขนมจีน
    ขนมจีนกับทูน่ากระป๋องผัดกระเทียมขนมจีนกับทูน่ากระป๋องผัดกระเทียม
Cr. แจกสูตร เมนูอาหาร 

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

วิธีทำเมนูแกงส้มใต้หน่อไม้ดองกุ้งสด

   แกงส้ม เมนูที่นึกออกทันควันเมื่อใกล้เวลามื้อเย็นแล้วใจอยากกินอะไรแกงร้อน ๆ สักถ้วยพร้อมข้าวสวยสักจาน ว่าแล้วก็แว๊นไปตลาดหาซื้อสารพัดวัตถุดิบมาทำแกงส้มแบบที่ชอบ แต่อย่าเพิ่งส่ายหน้าไปนะคะว่ามันต้องยุ่งยาก เพราะสูตรนี้เป็นเมนูที่ชอบทำกินกันในครอบครัว ไม่ต้องโขลกน้ำพริกกับเนื้อปลาหรือใช้ส่วนผสมมากแบบแกงส้มภาคกลาง แต่เป็นแกงรสเปรี้ยว เผ็ดร้อน จัดจ้าน ผสมผสานวิธีทำแบบแกงเหลือง หรือแกงส้มปักษ์ใต้ ใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่างเราจะได้ซดน้ำแกงรสเปรี้ยวร้อน ๆ หอมกุ้งสด พร้อมเคี้ยวหน่อไม้ดองกรอบ ๆ 

ส่วนผสมน้ำพริกแกงส้ม

พริกแห้ง 30-40 เม็ด ถ้าชอบเผ็ดมากใส่เพิ่มได้อีก

หอมแดงปอกเปลือก 4-5 หัว

กระเทียมไทยปอกเปลือก 30-40 กลีบ

ขมิ้นหั่นชิ้น 1 ช้อนโต๊ะ

กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำน้ำพริกแกงส้ม

นำพริกแห้งแช่น้ำประมาณ 20 นาที

แล้วนำไปโขลกรวมกับส่วนผสมอื่นจนละเอียด

วิธีทำแกงส้มขั้นตอนการทำ

วิธีทำแกงส้มใต้หน่อไม้ดองกุ้งสด

  1. ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ผงปรุงรสพอให้มีรสชาติของน้ำซุป จากนั้นให้ใส่หัวไชเท้าลงไป
  2. เมื่อหัวไชเท้าเริ่มสุก นำน้ำพริกแกงที่เตรียมไว้ลงไปละลายในน้ำซุป
  3. ปรุงรสน้ำแกงด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา ชิมเอารสชาติที่ถูกใจ (เปรี้ยวนำเค็มตามแบบติด ๆ แนะนำให้เน้นรสเข้มข้นเพราะเมื่อใส่ส่วนผสมที่เหลือรสชาติจะเจือจางลงอีก)
  4. ใส่หน่อไม้ดองลงไป ชิมรสชาติอีกครั้ง หากไม่ตรงใจให้ปรุงเพิ่ม
  5. ปิดฝาหม้อรอให้น้ำแกงเดือดพล่านอีกครั้งหนึ่งจึงใส่กุ้งลงไปแล้วปิดฝาหม้อ **ห้ามใช้ทัพพีคนจนกว่ากุ้งจะสุกเพราะอาจมีกลิ่นคาวกุ้งได้
  6. เพียงครู่เดียวกุ้งก็สุก จากนั้นเปิดฝาหม้อ ปิดเตาแก๊ส แล้วบีบน้ำมะนาวลงไป 1 ซีกเพื่อดึงรสชาติ ก่อนใช้ทัพพีคนเบา ๆ

เรียบร้อยแล้วค่ะ แกงส้มใต้หน่อไม้ดองกุ้งสด รับประทานกับข้าวสวยนุ่ม ๆ ร้อนๆ อร่อยมาก วัตถุดิบทั้งผักและเนื้อสัตว์สามารถเปลี่ยนชนิดได้ แล้วแต่ความชอบ

แกงส้มใต้หน่อไม้ดองกุ้งสดแกงส้มใต้หน่อไม้ดองกุ้งสด
รวมเมนูอาหาร คลิ๊ก !!!

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

วิธีทำ “ยำวุ้นเส้นโบราณ” เครื่องแน่น ทำง่าย

 วิธีทำเมนูยำมีหลากหลาย แต่ความอร่อยไม่เพียงขึ้นอยู่ที่วัตถุดิบที่สดใหม่ แต่ยังรวมถึงเครื่องปรุงส่วนผสมที่ชวนให้เราตักเข้าปากครั้งแล้วครั้งเล่าจนหมดจานแบบไม่รู้ตัว ครั้งนี้ชวนมาคลุกเคล้ายำสุดแซ่บกินเพลินแต่ได้รสมัน ๆ จากถั่วลิสง  นั่นคือ “ยำวุ้นเส้นโบราณ” ที่ครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด เมนูนี้ไม่ค่อยพบในร้านอาหารส่วนใหญ่ แต่ทำเองที่

บ้านได้ไม่ยุ่งยาก ไปดูกันค่ะว่ามีส่วนผสมอะไร ทำอย่างไรบ้าง

ยำวุ้นเส้นโบราณวัตถุดิบยำวุ้นเส้นโบราณ

วัตถุดิบทำยำวุ้นเส้นโบราณ

  • วุ้นเส้นแห้ง 80 กรัม
  • หมูบด 2 ขีด
  • หมูยอ 1 ขีด
  • ไส้กรอก 1 ขีด
  • หอมแดงซอย
  • กุ้งแห้งทอด
  • ถั่วลิสงทอด
  • กระเทียมบด 5 กลีบ
  • ผักชี

(สัดส่วนเพิ่มลดได้ตามความชอบ)

น้ำยำปรุงรส

  • พริกขี้หนูสวนสับ/บดละเอียด
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันและชิมรสตามชอบ

ยำวุ้นเส้นโบราณวิธีทำยำวุ้นเส้นโบราณ

วิธีทำยำวุ้นเส้นโบราณ

เตรียมเครื่องผสม

  1. เจียวกระเทียมให้เหลืองหอม พักไว้พร้อมน้ำมันที่เจียวกระเทียม หากไม่สะดวกใช้กระเทียมเจียวสำเร็จได้
  2. ลวกวุ้นเส้นให้สุกนิ่มเส้นใส ตักขึ้นจากน้ำและสะเด็ดน้ำออกให้มากที่สุด แนะนำให้ใช้วุ้นเส้นแบบแห้งนำไปแช่น้ำ หากใช้วุ้นเส้นสด เส้นอาจเละเกินไปไม่น่ารับประทาน
  3. รวนหมูให้สุกโดยปรุงรสด้วยเกลือป่นและน้ำมะนาวเล็กน้อย
  4. ลวกไส้กรอกและหมูยอ พักไว้
  5. กรณีใช้กุ้งแห้งทอดเอง ทอดกุ้งแห้งให้กรอบ เคล็ดลับคือเลือกกุ้งแห้งมีเปลือก แช่น้ำเปล่า 15 นาทีแล้วล้างออก ก่อนนำลงทอดในน้ำมัน





คลุกผสม

เริ่มจากนำวุ้นเส้นลวกมาคลุกกระเทียมและน้ำมันเจียวให้เข้ากันก่อนนะคะ

ยำวุ้นเส้นโบราณ

จากนั้นผสมวัตถุดิบทุกอย่างเข้าด้วยกัน วุ้นเส้น เนื้อหมู หอมแดงซอย ราดน้ำยำแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันดี แล้วโรยหน้าด้วยกุ้งแห้งทอด ถั่วลิสงทอด และผักชี

ยำวุ้นเส้นโบราณ

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแบบถั่วและกุ้งแห้งฉ่ำน้ำยำนิด ๆ และต้องการรับประทานเลยทันที สามารถนำถั่วลิสงและกุ้งแห้งยำคลุกเคล้ากับส่วนอื่น ๆ พร้อมกันได้เลย

ยำวุ้นเส้นโบราณ

เสร็จแล้วค่ะ ยำวุ้นเส้นโบราณ จัดแกล้มผักเคียงอย่างผักกาดหอม แตงกวา เตรียมแซ่บ ! พร้อมเสิร์ฟ!

เมนูอาหาร คลิ๊ก!!!


เมนูยำวุ้นเส้น

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

วิธีทำ "ยำแหนมคลุก" ด้วยข้าวทอด เมนูทานเล่น สรรพคุณเด่นครบเครื่อง

 


วิธีทำยำแหนมคลุก ทุกขั้นตอนทำเป็นแน่นอน


วันนี้แวะมาเอาใจสาวๆ ที่ชื่นชอบการทานเมนูยำ ด้วย ยำข้าวทอดแหนมคลุก เมนูที่ให้รสชาติครบรสและทำเองได้สบายๆ แม้จะมีส่วนผสมที่ต้องเตรียมมากมาย แต่รับรองว่าจานนี้ไม่ได้ให้แต่เพียงความอร่อยและทานเพลินๆ เท่านั้น เพราะยังให้สารอาหารแก่ร่างกายมากมายอีกด้วย เอาเป็นว่าไปเตรียมส่วนผสมสำหรับทำเมนูยำข้าวทอดแหนมคลุกกันเลยดีกว่าค่ะ

วัตถุดิบและส่วนผสมสำหรับทำข้าวทอด

  • ข้าวสวย 2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำปลา 1 ช้อนชา
  • ใบมะกรูดซอย 5 ใบ
  • แป้งทอดกรอบ 50 กรัม
  • พริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่าเย็นจัด 1/3 ถ้วย
  • น้ำมันใช้สำหรับทอด


วัตถุดิบและส่วนผสมสำหรับทำยำแหนม

  • แหนมสด 100 กรัม
  • ข้าวทอด 2 ลูก
  • พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • ขิงอ่อนซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • หัวหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • หนังหมูต้มสุก 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกแห้งทอด (ตามใจชอบ)
  • ถั่วลิสงทอด (ตามใจชอบ)
  • ผักสด (เสิร์ฟคู่กับเมนูยำข้าวทอดแหนมคลุก)

วิธีทำยำข้าวทอดแหนมคลุก

1.นำข้าวสวย พริกแกงเผ็ด ไข่ไก่ น้ำปลา และใบมะกรูดใส่ลงไปในชามผสม แล้วคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

2.นำส่วนผสมที่ได้ปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วกดให้แน่น จากนั้นตั้งพักไว้

3.ละลายแป้งกับน้ำเปล่าเย็นจัดให้เข้ากัน

4.ตั้งกระทะใส่น้ำมันโดยใช้ไฟกลาง เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่ ให้นำข้าวที่ทำเสร็จแล้วมาชุบแป้งที่ละลายในน้ำเย็นแล้วเอาไปทอดจนเหลืองกรอบจึงค่อยพลิกทอดอีกด้าน

5.ในระหว่างที่รอข้าวที่ทอดเสร็จแล้วสะเด็ดน้ำมัน ให้นำหนังหมูที่หั่นเป็นเส้นมาต้มให้สุกแล้วค่อยตักขึ้นพักไว้

6.นำข้าวทอดใส่ชามยีให้พอแตก ต่อด้วยใส่แหนมสดแล้วบี้ จึงค่อยใส่หนังหมูต้มสุกตามลงไป แล้วคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน

7.เติมขิงอ่อนซอย หัวหอมซอย ต้นหอมซอย และผักชีฝรั่งซอย ในชามผสมตามลงไป

8.ปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาว ชิมให้ได้รสชาติที่ต้องการ

9.ตักยำข้าวทอดแหนมคลุกใส่จาน แล้วโรยด้วยพริกขี้หนูทอดและถั่วลิสงทอดตามใจชอบ

10.เสิร์ฟพร้อมกับผักสด รับประทานคู่กันจะยิ่งได้อรรถรสในการทานเมนูนี้มากขึ้น

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากที่ได้ทราบถึงวิธีทำเมนูยำข้าวทอดแหนมคลุกกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ละวิธีทำได้ง่ายมากๆ แม้จะเป็นมือใหม่หัดทำอาหารก็ทำได้สบายๆ แต่อาจจะต้องเตรียมใจในการเตรียมวัตถุดิบที่ใช้ในการทำเมนูนี้มากกว่าเมนูอื่นๆ แต่รับรองว่าถ้าได้ทานเมนูนี้เข้าไปแล้ว จะรู้สึกถึงความคุ้มค่าในเวลาที่ทุ่มเททำเมนูนี้อย่างแน่นอนค่ะ

รวมเมนูอาหารคลิ๊ก!!!! 

ภาพโฆษณา