วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562

ครีมกันแดด ยอดนิยมในร้านขายยาญี่ปุ่น

ครีมกันแดดที่ึขึ้นชื่อ ยอดนิยม ก็ขอยกให้ญี่ปุ่นเค้าเลยนะคะ แต่เราจะเลือกตัวไหนหละ เอาเป็นว่าเรามาส่องกันดีกว่า ว่าร้านขายยาในญี่ปุ่นเค้าขายครีมกันแดดอะไรกันบ้าง


1. Skin Aqua Tone Up UV Essence SPF50+ PA++++

ยกให้เป็นครีมกันแดดในดวงใจของสาวๆ หลายคน และยังคงเป็น ครีมกันแดด ญี่ปุ่น 2019 น่าใช้ สำหรับ Skin Aqua Tone Up UV Essence ด้วยเนื้อครีมสีม่วงอ่อนๆ เป็นกันแดดกึ่งเมคอัพเบส ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF50+ และ PA++++ นอกจากจะช่วยปกป้องผิวแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวด้วยส่วนผสมของไฮยารูลอนและวิตามินซี ให้ผิวสวยสุขภาพดี เนื้อครีมบางเบา ทาทับเครื่องสำอางระหว่างวันได้ และช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสทันทีที่ทา

ค่าการป้องกัน : SPF50+ และ PA++++

ราคา : 740 เยน หรือประมาณ 220 บาท
2. Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+/PA++++

มากันที่อีกหนึ่งแบรนด์ดังที่มีครีมกันแดดรุ่นยอดฮิตติดใจสาวๆ ออกมาให้ใช้กันเสมอ หลอดสีฟ้าสดใสนี้ก็คือ Biore UV Aqua Rich Watery Essence ครีมกันแดดจากบีโอเร สูตรน้ำ เนื้อเอสเซ้นส์ ที่ให้ความรู้สึกบางเบาสบายผิวสุดๆ เนื้อไม่มันเหนอะหนะด้วยนวัตกรรม UV Aqua Jelly Capsule พร้อมช้วยปกป้องรังสี UV มี SPF 50+ และ PA++++ สามารถทาทับเครื่องสำอางระหว่างวันได้เลย

ค่าการป้องกัน : SPF 50+, PA++++

ราคา : 698 เยน หรือประมาณ 200 บาท
3. ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+/PA++++

ใครผิวมัน จัดตัวนี้เลยจ้า กับ ครีมกันแดด ญี่ปุ่น 2019 จาก Shiseido แบรนด์ดังในตำนานที่สาวๆ มั่นใจในประสิทธิภาพกันแดดมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk รุ่นใหม่นี้เป็นสูตรน้ำนม เนื้อบางเบา ปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยเทคโนโลยี Aqua Booster EX กันเหงื่อและกันน้ำ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ด้วยเนื้อครีมที่ทาง่าย คุมมันได้ดี พร้อม SPF 50+ และ PA++++ มาในขวดสีทองสวยหรู สังเกตดีๆ รุ่นใหม่นี้ที่ฝาด้านบนจะเป็นสีฟ้านะจ๊ะ

ค่าการป้องกัน : SPF 50+, PA++++

ราคา : 2,480 เยน หรือประมาณ 710 บาท

4. ALLIE Extra UV Facial Gel SPF50+ PA++++

ยกให้เป็น ครีมกันแดด ญี่ปุ่น 2019 น่าใช้อย่างต่อเนื่องกับ ALLIE Extra UV Facial Gel ครีมกันแดดเนื้อเจลบางเบาจาก Kanebo ที่กันทั้งเหงื่อและน้ำ ติดทนนาน ทาตัวนี้ก่อนแต่งหน้ายังช่วยให้รองพื้นติดทนด้วยนะ ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วย SPF50+ และ PA++++ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของเอสเซนส์บำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื่น ใครไป ทัวร์ญี่ปุ่น ต้องจัด!!

ค่าการป้องกัน : SPF 50+, PA++++

ราคา : 2,100 เยน หรือประมาณ 600 บาท
5. Kose Cosmeport Suncut UV Protect Spray Fruity Floral SPF50+ PA++++

ปิดท้ายกันที่ ครีมกันแดด ญี่ปุ่น 2019 แบบสเปรย์กันบ้าง Kose Cosmeport Suncut UV Protect Spray Fruity Floral ที่มาในขวดสเปรย์สีเงิน-ทอง เป็นสเปรย์กันแดดที่ใช้งานง่ายและสะดวกพกพามากๆ ข้อดีของแบบสเปรย์ก็คือไม่เหนียวเหนอะหนะและไม่เป็นคราบ ปกป้องผิวด้วย SPF50+ และ PA++++ แถมรุ่นนี้ยังราคาน่ารักสุดๆ พกติดกระเป๋าไว้เลยค่ะ

ค่าการป้องกัน : SPF 50+, PA++++

ราคา : 498 เยน หรือประมาณ 145 บาท
ข้อมูลจาก https://www.sanook.com/women/136297/

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562

แค่ทาตามนี้ ผิวก็สวยเนียนใส

แนะนำเคล็ดลับการทาโลชั่น แบบง่ายมาก ทำแค่ 5 ขั้นตอนนี้
1.ขจัดขี้ไคลหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไปก่อนการขัดขี้ไคลเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไปจากผิว ซึ่งจะช่วยให้เนื้อโลชั่นซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็วและรับสารอาหารจากโลชั่นได้อย่างเต็มที่ เพราะถ้าเราไม่ขัดขี้ไคลหรือขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป การทาโลชั่นก็จะไม่สามารถเข้าถึงผิวของเราได้อย่างล้ำลึกเต็มที่ เพราะอาจจะไปตกค้างหรือสะสมที่บริเวณชั้นของขี้ไคลแทน อีกทั้งยังทำให้เปลืองโลชั่นอีกด้วย


2.ทาโลชั่นหรือครีมบำรุงทีละตัวหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ยังไงก็ทาอยู่แล้วทาพร้อมกันหมดนี่แหละจะได้ประหยัดเวลา นั่นถือว่ายังขาดความรู้อีกมาก เพราะโลชั่นแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติต่างกัน การทาพร้อมกัน อาจจะมีสารบางอย่างที่ทำปฏิกิริยาต่อกัน อาจส่งผลเสียหรือลดคุณภาพของโลชั่นแต่ละชนิดลงไปได้ ดังนั้นการทาทีละตัวจะช่วยให้คุณสมบัติของครีมบำรุงแต่ละชนิดค่อยๆ ซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างแท้จริง และควรทาห่างกันอย่างน้อย 10-15 นาทีก่อนที่จะทาโลชั่นอีกตัวซ้ำลงไป
3.อาบน้ำเย็นในขั้นตอนสุดท้ายการอาบน้ำอุ่นจะทำให้รูขุมขนขยายกว้าง จึงช่วยกำจัดสิ่งสกปรกหรือช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้ ซึ่งง่ายต่อการทำความสะอาดผิวได้มากยิ่งขึ้น แต่ในขั้นตอนสุดท้ายของการอาบน้ำ แนะนำให้ราดตัวด้วยน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อปิดกระชับรูขุมขน และน้ำเย็นยังช่วยเก็บล็อกความชุ่มชื้นเอาไว้ใต้ผิว ทำให้ผิวไม่ต้องสูญเสียความชุ่มชื้นมากจนเกินไป ซึ่งจะทำให้การบำรุงด้วยโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นยิ่งได้ประสิทธิภาพมากขึ้นไปพร้อมกันด้วย
4.อาบน้ำเสร็จควรบำรุงผิวด้วยโลชั่นทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จ ควรทาโลชั่นตามทันที เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้อย่างรวดเร็วในขณะที่ผิวกำลังแห้งหมาด ซึ่งจะทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ปราศจากความแห้งกร้านได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนบ่อยๆ ยิ่งต้องเคร่งครัดเรื่องการทาครีมบำรุงผิว เพราะการอาบน้ำร้อนจะเป็นตัวการทำให้ผิวแห้งเสียได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึง
5.ทาโลชั่นซ้ำอีกครั้งก่อนนอนการทาโลชั่นก่อนนอนจะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้ดีขึ้น เพราะร่างกายจะทำการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวพรรณทุกส่วนของร่างกายในเวลาที่เรานอนหลับ ดังนั้น การทาโลชั่นก่อนนอนก็จะช่วยเติมเต็มสารอาหารดีๆ ให้กับผิว ทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่มชุ่มชื้น สดใส และห่างไกลจากริ้วรอยความแก่ได้ด้วย


7 ครีมกันแดด กันน้ำ สำหรับหน้าร้อนนี้

"7 ครีมกันแดดกันน้ำ" ราคาไม่เกินพัน ร้อนเหงื่อชุ่มแค่ไหน ก็ยังสวยรอด
อากาศร้อนแรงมากทั้งประเทศ อยากแนะนำการเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสม เวลานี้ กันแดดจะต้องกันน้ำ เพราะเหงือเราจะไหลพลั่งพลูดุจอาบน้ำทีเดียว แถม โดนแสง แค่ 2 วินาที หน้าเทามาก ณ จุดนี้ อากาศชั่งไม่เป็นใจกับความสวยของเราเลย แต่เราต้องไม่หยุดความสวยเพียงแค่นี้ ลองใช้ตามกันดูนะคะ
1 Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+ PA++++


คุณสมบัติ : กันแดดขายดีอับดับ 1 ของญี่ปุ่น 18 ปีซ้อน เป็นสูตรเนื้อน้ำนม มีเทคโลโลยีเด็ด ที่เวลาเจอน้ำ เจอเหงื่อจะยิ่งเพิ่มการปกป้องแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ทั้งผิวหน้า ผิวกาย เป็นเมคอัพเบส ช่วยให้แต่งหน้าเรียบเนียนติดทนนาน พร้อมด้วยสารบำรุงผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้านจากผิวที่โดนแสงแดดทำร้าย 

เนื้อครีม : สูตรน้ำนม เนื้อบางเบา สบายผิว เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ราคา : 815 บาท


2 Dermaction Plus by Watsons Advanced Sun Solar Barrier Invisible Balm SPF50+ PA+++


คุณสมบัติ : ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพสีผิวใบหน้าผสมสารป้องกันแสงแดดสูตรกันน้ำ กันรังสี UVA UVB รังสีความร้อน และรังสีจากแสงสีฟ้า ซึ่งรังสีเหล่านี้เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอย และทำให้เกิดจุดด่างดำ ความหมองคล้ำบนใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง และแพ้ง่าย ผ่านการทดสอบการระเคืองต่อผิว โดยสถาบันชั้นนำเดิร์มสแกนเอเชีย
เนื้อครีม : เนื้อบาล์มบางเบา ซึมซาบรวดเร็ว ให้ความชุ่มชื้นสูงมาก ช่วยปกปิดริ้วรอยตื้นๆ โดยไม่ทิ้งคราบขาว ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
ราคา : 580 บาท





3 Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++


คุณสมบัติ : กันแดดสูตรน้ำ ให้การปกป้อง UVA สูงสุด ไม่ให้ทำร้ายคอลลาเจน ผิวไม่แก่ก่อนวัย ผิวไบร์ท ไม่หมองคล้ำ ด้วย SPF50+ ปกป้อง UVB สูงสุด สาเหตุของผิวคล้ำเสีย และฝ้า กระ จุดด่างดำ ปกป้องผิวได้ต่อเนื่องและยาวนาน ด้วยสูตรพิเศษ กันน้ำ กันเหงื่อ
เนื้อครีม : เนื้อเอสเซ้นส์ สำหรับผิวหน้าและลำคอ ให้ความบางเบาสุดๆ ทาทับเครื่องสำอางระหว่างวันได้ เมคอัพเดิมไม่ลบเลือน ไม่เป็นคราบ ไม่มันเหนอะหนะ
ราคา : 499 บาท




4 D Program Allerdefense Cream SPF37 PA+++


คุณสมบัติ : ปกป้องผิวบอบบางแพ้ง่ายจากรังสี UVA/UVB อนุภาคฝุ่น ควัน มลภาวะ ในอากาศ พร้อมมอบความชุ่มชื่น แก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้านระหว่างวัน ปกป้องผิวบอบบางจากมลภาวะในอากาศ และปัจจัยอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นเกสรดอกไม้ อนุภาคของฝุ่น หรือฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่ำ 2.5 ไมครอน ปราศจากส่วนผสมของกันแดดทางเคมี อ่อนโยนต่อผิวที่บอบบางแพ้ง่าย เด็ก 48 วันก็สามารถใช้ได้
เนื้อครีม : เนื้อครีมเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย ผิวชุ่มชื้นยาวนาน ใช้เป็นเบสก่อนแต่งหน้า ช่วยทำให้รองพื้นติดทนนานขึ้น ไม่ลอกระหว่างวัน
ราคา : 990 บาท


5 Nivea Sun Body Daily Protect Whitening Sun Serum SPF50 PA+++





คุณสมบัติ : กันแดดทาตัวเนื้อเซรั่มที่ให้มากกว่าการปกป้อง แต่ยังช่วยฟื้นบำรุงผิวคล้ำเสีย สีผิวไม่สม่ำเสมอเพื่อผิวดูขาวกระจ่างใส ทั่วเรือนร่างอย่างเป็นธรรมชาติ ปกป้องแดดที่ทำร้ายผิวลึก ถึงระดับคอลลาเจน ปราศจากสารเคมี บำรุงผิวให้ดูขาวกระจ่างใสทั่วเรือนร่าง ไม่กลับมาคล้ำเสีย ด้วยสารสกัดจากวิตามินซีเข้มข้น 50 เท่า และสารสกัดจาก Acerola Cherry
เนื้อครีม : เนื้อบางเบา สบายผิว เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน
ราคา : 239 บาท

6 Banana Boat Simply Protection Sport Lotion SPF50+ PA++++
คุณสมบัติ : ครีมกันแดดสำหรับกลางแจ้งและเล่นกีฬา ป้องกันรังสี UVA/UVB กันน้ำเเละเหงื่อดีเยี่ยม, สารเคมีน้อยลง 25%, ไม่มีอ๊อกซี่เบนโซน, พาราเบน, น้ำมันและน้ำหอม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการครีมกันแดดที่อ่อนโยนจากสารเคมี
เนื้อครีม : โลชั่นกันแดด เนื้อครีมบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาซ้ำได้ตลอดทุกๆ 2 ชั่วโมง 
ราคา : 275 บาท



7 L’Oreal UV Mat & Fresh SPF50+ PA++++


คุณสมบัติ : ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าผสมสารป้องกันแสงแดด สูตรควบคุมความมัน ช่วยให้หน้าไม่มัน ไม่เยิ้มตลอดทั้งวัน ชุ่มชื้น 24 ชม. ป้องกันสาเหตุของการเกิดสิวก่อนวัย  ปกป้องผิวจากรังสี UVA รังสี Long UVA อันเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยและรังสี UVB อันเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำได้ 50 เท่า ผิวหน้าแลดูกระจ่างใส รูขุมขนดูกระชับขึ้น
เนื้อครีม : เนื้อครีม เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว
ราคา : 279 บาท
ข้อมูลจาก >> https://www.sanook.com/women/135929/




วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562

การเลือกครีมกันแดด



   "ครีมกันแดด" กับเรื่องที่คนไทยอาจเข้าใจผิดมาตลอด
การเลือกครีมกันแดด

แนะนำการเลือกครีมกันแดด

>> ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ดีควรปกป้องผิวได้ทั้งรังสี UVA-I, UVA-II และ UVB
>> แดดเมืองไทยแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF 30-50 ,PA มากกว่า 3+ หรือ PPD มากกว่า 10
ในโลกนี้ไม่มีผลิตภัณฑ์กันแดดใดๆ ที่กัน UVA และ UVB ได้สมบูรณ์แบบ 100% การทาผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการป้องกันความเสียหายของ DNA ที่ผิวเรา สิ่งที่ควรทำไปควบคู่กันไป คือการหลีกเลี่ยงแสงแดด
ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ไม่ค่อยมีความหลากหลายในการตอบโจทย์ปัญหาผิวของผู้บริโภค ซ้ำยังพบปัญหาอื่นๆตามมา เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูงๆ หลังทาจะรู้สึกเหนียว เหนอะหนะ ทำให้ผิวมัน เกิดสิวตามมา สารกันแดดชนิดสะท้อนหรือหักเหแสง (Physical Sunscreen) ทำให้สีผิวหน้าลอยขาวหรือหน้าวอก อีกทั้งสารกันแดดรุ่นเก่ายังไม่มีความเสถียรพอที่จะปกป้องรังสียูวีได้ยาวนาน ปัญหาฝ้า กระ รอยดำ จึงไม่ลดลง แม้จะทาไปในปริมาณมากและสม่ำเสมอ
ในปัจจุบัน นับเป็นความโชคดีที่ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงแก้ปัญหาของผลิตภัณฑ์กันแดดที่ผ่านมา จนเริ่มเป็นที่ยอมรับและใช้กันแพร่หลายมากขึ้น มาลองอัพเดท 3 Tips การเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดแบบครอบคลุมและเจาะลึกกัน

3 Tip ควรรู้


1. ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ดีควรปกป้องผิวได้ทั้งรังสี UVA-I, UVA-II และ UVB
แสงยูวีที่จะก่ออันตรายต่อผิวหนังจะประกอบด้วยรังสี UVA I และ UVA II มีอำนาจทะลุทะลวงสูงเข้าสู่ชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดการทำลายคอลลาเจนซึ่งเป็นสาเหตุหลักของรอยย่น ความหย่อนคล้อย กระ และมะเร็งผิวหนัง โดยที่รังสี UVA I หรือ Long UVA มีอำนาจทะลุทะลวงสูงที่สุด  ส่วนรังสี UVB มีอำนาจทะลุทะลวงผิวหนังน้อยกว่า จึงเข้าสู่ชั้นหนังกำพร้าทำให้เกิดฝ้า ผิวคล้ำ ผิวไหม้จากแดด (sunburn )
Sunscreen หรือสารกันแดดที่ผสมในผลิตภัณฑ์ แบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ตามคุณสมบัติคือ
Physical Sunscreen สารกันแดดแบบฟิสิคัล ทำหน้าที่เหมือนเป็นกระจกเงาสะท้อนหรือหักเหรังสี UV ออกไปจากผิว สารในกลุ่มนี้มีอยู่สองตัวคือ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide (ปกป้องผิวจากรังสี UVA-I,UVA-II,UVB ได้)
Chemical Sunscreen สารกันแดดแบบเคมีคัล ทำหน้าที่ดูดซับรังสีไม่ให้ทะลุผ่านไปยังผิวหนังได้ เป็นสารกันแดดที่พบได้ทั่วไป (ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ทุกตัว แต่การปกป้องจากรังสี UVA-I, UVA-II แตกต่างกันไป)
Hybrid Sunscreen สารกันแดดแบบผสม มีคุณสมบัติทั้งสะท้อนและดูดซับรังสีในตัวเอง เช่น Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol หรือ Tinosorb M (ปกป้องผิวจากรังสี UVA-I,UVA-II, UVB ได้)
Sunscreen หรือสารกันแดดทุกตัว สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ทุกตัว แต่จะป้องกันรังสี UVA-I และ UVA-II ได้ครบหรือไม่นั้น นอกจากคำชวนเชื่อที่ผลิตภัณฑ์อ้างที่ตัวบรรจุภัณฑ์ เราสามารถดูสารกันแดดที่ปกป้องได้ครบถ้วน ว่าสารเหล่านี้มีในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้หรือไม่
สารที่ป้องกันผิวจากรังสี UVA ได้ครบทั้ง UVA-I ,UVA-II และ UVB ก็คือ Titanium Dioxide ,Zinc Oxide ,Butyl Methoxydibenzoylmethane (Avobenzone) ,Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine (Tinosorb® S), Drometrizole TriSiloxane (Mexoryl® XL), Terephthalylidene Dicamphor Sulfonic Acid (Mexoryl® SX) ,Methylene Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol (Tinosorb® M)
2. ค่าในการปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ต้องสูงเข้าไว้
มาตรฐานทั่วโลกที่ใช้วัดค่าการป้องกันรังสี UVB คือ SPF (Sun Protection Factor)
> ค่า SPF 30 หากกล่าวแบบง่ายๆ หมายถึงผลิตภัณฑ์ตัวนั้นสามารถป้องกันรังสี UVB ได้มากกว่าปกติ 30 เท่า สมมติถ้าเราไปตากแดด 15 นาทีผิวถึงจะเริ่มไหม้แสบแดง การที่ทา Sunscreen ที่มี SPF 30 ก็จะอยู่กลางแดดได้นานขึ้นอีก 30 เท่า นั่นก็คือ 450 นาที (15 x 30 = 450) หรือประมาณ 7 ชั่วโมง หากเราเราอยู่กลางแดดนานเกินกว่านี้ก็ควรทาซ้ำ
> สิ่งที่ควรทราบคือ เราต้องใช้ผลิตภัณฑ์ ในปริมาณ 1/2 ช้อนชา ทาให้ทั่วใบหน้าหรือลำคอเพื่อที่จะได้ค่า SPF ตามที่ระบุเอาไว้บนฉลาก (ส่วนตามร่างกายประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะสำหรับแขนและขา)
> ที่ SPF 30 ป้องกันรังสี UVB ได้ 97% ในขณะที่ SPF มากกว่า 50 ป้องกันได้ 98% ซึ่งแตกต่างกันเพียง 1% จึงอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงๆ ซึ่งมักเป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดว่าค่า SPF ยิ่งสูง ยิ่งดี ในเมืองไทยจึงอนุญาตให้เคลมได้ที่ SPF50 หากมากกว่านั้น ผลิตภัณฑ์จะระบุว่า SPF50+
> สำหรับแดดที่ร้อนระอุในเมืองไทย และ UV Index แรงขนาดนี้ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี SPF มากกว่า 30 ขึ้นไป

มาตรฐานที่ใช้วัดค่าการป้องกันรังสี UVA

ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานสากลในการวัดค่าการป้องกัน UVA ที่พบได้บ่อยเราจะเห็นมี PPD กับ PA (+)
  • PPD (Persistent Pigment Darkening) ค่า PPD นั้นใช้บอกว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นจะช่วยปกป้องผิวจาก UVA ได้มากกว่าปกติกี่เท่า ซึ่งเราจะพบผลิตภัณฑ์ที่ระบุค่า PPD ได้จากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในยุโรปหรือผลิตเพื่อจำหน่ายในยุโรป หากจะเลือกใช้ แนะนำให้เลือกที่ PPD มากกว่า 10 ขึ้นไป
  • PA (+) หรือ Protection grade of UVA เป็นค่าการป้องกัน UVA ซึ่งริเริ่มโดยสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 2006 โดยมีหลักการดังนี้
          >> PA+ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA เริ่มต้น
          >> PA++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA กลาง
          >> PA+++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูง
          >> PA++++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูงสุด
สำหรับแดดเมืองไทย ควรเลือกที่ PA มากกว่าหรือเท่ากับ 3+ ( PA+++, PA++++)
3. หากผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหน 
สำหรับผิวแพ้ง่าย หรือผิวเด็กนั้น มีหลักการดังนี้
>> เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารกันแดดอย่าง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide (กลุ่ม Physical Sunscreen) เพราะไม่ตกค้างหรือดูดซึมสู่ผิว และอุดตันรูขุมขนน้อย
>> เลี่ยงน้ำหอม Fragrance Oil โดยเฉพาะน้ำมันจากลาเวนเดอร์ (Lavender oil) น้ำมันจากพืชตระกูลส้ม มะนาว มะกรูด (Citrus Oil) เพราะทำให้ผิวระคายเคืองง่าย เมื่อโดนแดด ทางที่ดีมองหาสูตรปราศจากน้ำหอมที่บอกว่า Fragrance Free หรือ Perfume Free ดีที่สุด
>> เลี่ยงสูตรที่ผสมแอลกอฮอล์ (Alcohol) เพราะสามารถก่อให้เกิดอนุมูลอิสระกับผิวได้ และก่อให้เกิดความระคายเคืองได้ในผิวแพ้ง่าย
>> เราควรทาผลิตภัณฑ์กันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้สารกันแดดชนิดเคมีคัลเซตตัวกับผิว (ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นมีเพียงสารกันแดดฟิสิคัล ก็สามารถออกแดดได้เลย)
>> หากเราต้องทำกิจกรรมที่โดนน้ำหรือเป็นคนมีเหงื่อออกมากก็ต้องหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าเป็น Water Resistance (กันแดดได้ 40 นาทีหากว่ายน้ำ) / Very Water Resistance (กันแดดได้ 80 นาทีหากว่ายน้ำ) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสารกันแดดแบบเคมีคัล สูตรแบบกันน้ำ ส่วนมากมักทำให้หน้าดูมันเงาเนื่องจากผลิตภัณฑ์สร้างชั้นฟิลม์ที่สามารถทนน้ำได้หากเราไม่ได้มีกิจกรรมทางน้ำ จึงไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ แต่ถ้าใครมีกิจกรรมทางน้ำ แนะนำให้ทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงหากเป็นไปได้
>> เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์กันแดดนั้นมีอยู่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Cream, Lotion, Gel , Spray ถ้าคนผิวหน้ามันง่ายควรเลือกสูตร Gel หรือ Spray แต่ถ้าจะมีกิจกรรมทางน้ำเลือกแบบครีมเข้มข้นจะเหมาะกว่า เพราะแบบอื่นๆ จะไม่เสถียรและหลุดง่าย แม้ว่าจะเคลมว่ากันน้ำได้ดี
>> สำหรับสาวๆ ที่รักการแต่งหน้า อาจพบปัญหาผลิตภัณฑ์กันแดดไม่เข้ากันกับรองพื้นหรือแป้งแต่งหน้า แนะนำให้ซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดขนาดเล็กมาทดลองก่อน เพื่อหายี่ห้อที่เหมาะสมกับเครื่องสำอางที่เรามี
>> ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์กันแดดที่ผสมสารปรับสีผิวให้กระจ่างใส หรือสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันริ้วรอยก่อนวัย ใครที่อยากมีผิวกระจ่างใส ผิวหน้าเด้งไปนานๆ พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดก็สามารถเลือกได้
>> ผลิตภัณฑ์กันแดด ห้ามแช่เย็น เพราะการแช่เย็น จะทำให้ประสิทธิภาพการกันแดดของสารกันแดดกลุ่มเคมีคัล (Chemical Sunscreen) ลดลง เนื่องจากเกิดการตกผลึกของสารกันแดดแยกชั้นออกจากส่วนผสม แนะนำให้เก็บในอุณหภูมิห้องที่ไม่ร้อน หลีกเลี่ยงแสงแดดในบริเวณที่เก็บ หากหมดอายุควรทิ้ง อย่าเสียดาย
สิ่งสำคัญที่อยากบอกไว้คือ ในโลกนี้ไม่มีผลิตภัณฑ์กันแดดใดๆ ที่กัน UVA และ UVB ได้สมบูรณ์แบบ 100% และการทาผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการป้องกันความเสียหายของ DNA ที่ผิวเรา สิ่งที่ควรทำไปควบคู่กันไป คือการเลี่ยงแดดในช่วง 11.00-13.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของรังสี UV มากที่สุด กางร่มหรือหลบแดดเท่าที่ทำได้ และควรสวมแว่นตากันแดดที่มีการเคลือบสารกรองรังสี UV เพื่อปกป้องดวงตาเป็นประจำด้วย
ข้อมูลต้นฉบับ >> https://www.sanook.com/health/15701/

วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2562

หัดเขียนคิ้วพื้นฐาน แบบจับมือทำ



เริ่มหัดเขียนคิ้วทรงพื้นฐาน ฉบับจับมือทำ
1. เลือกสีดินสอเขียนคิ้ว เทคนิคง่ายๆ คือเราเลือกสีดินสอเขียนคิ้ว ควรจะให้เข้ากับเส้นผม
2. วัดระยะคิ้ว ตอนนี้เราจะมาหาจุดหักมุม หรือจุดที่โค้งสุดของคิ้ว โดยการวางดินสอเขียนคิ้วด้านหนึ่งบริเวณปีกจมูก ทำมุมประมาณ 45องศา วางกะระยะให้ดินสอเขียนคิ้วทาบผ่านตำแหน่งกึ่งกลางของตาดำเราไป ส่วนปลายของดินสอเขียนคิ้วอีกด้าน คือจุดยกโค้งของคิ้ว จากนั้นให้เลื่อนดินสอเขียนคิ้วไปที่หางตาของเรา เพื่อกำหนดส่วนปลายหางคิ้วว่าควรจะสิ้นสุดที่จุดไหน ทั้ง 2 ตำแหน่งนี้ คุณผู้หญิงสามารถใช้ดินสอเขียนคิ้วทำจุดเล็กๆ ไว้กันลืมได้ค่ะ
3. สร้างโครงคิ้ว เราจะมาเริ่มการเขียนคิ้วกันโดย วาดจากด้านล่างของคิ้วก่อน โดยให้สาวๆค่อยๆวาด โดยยังไม่ต้องกดเต็มแรง เพื่อความเป็นธรรมชาติของงานคิ้วของเรา ในขั้นตอนนี้ให้ลากไปจรดตำแหน่งหางคิ้ว ตามด้วยการวาดโครงด้านบนโดยให้ลากจากหัวคิ้วผ่านจุดหักมุม ไปบรรจบกับจุดหางคิ้วในตอนต้นที่เราทำการมาร์คไว้ได้เลย
4. ระบายเป็นเส้นบาง เมื่อเราได้โครงคิ้วที่เสมือนเป็นกรอบให้เราลงสี ต่อจากนี้ก็ให้คุณผู้หญิงค่อยๆ เริ่มระบายเป็นเส้นๆ ไปตามทางคิ้วได้เลย โดยน้ำหนักมือจะเน้นช่วงหาง หรือปลายคิ้วมากกว่า และมาเบามือตรงบริเวณหัวคิ้วเพื่อความเป็นธรรมชาติ เราจะให้มองดูเหมือนหัวคิ้วค่อยๆจางหายไปกับบริเวณสันจมูกนั่นเอง
5. ใช้แปรงปัดคิ้วเขี่ยนให้เนียน เลือกใช้แปรงปัดคิ้วที่มีลักษณะเป็นเกลียว จะช่วยให้เกลี่ยง่าย เราจะทำการเกลี่ยในจุดที่ตอนเขียนอาจจะยังไม่สม่ำเสมอกันเท่าที่ควร การปัดคิ้วด้วยแปรงนี้ ทำให้มีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และยังทำให้ขนคิ้วเรียงเส้นสวยงามอีกด้วย

ข้อมูลจาก https://www.sanook.com/women/118173/
 เขียนคิ้ว




วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2562

อยากหน้าใส ไร้สิว ต้องรู้วิธีล้างหน้า



ล้างหน้าผิดชีวิตเปลี่ยน กับ 5 วิธีล้างหน้าแบบผิดๆ ที่ทำให้สิวมาเยือน
การล้างหน้า เป็นอะไรที่เชื่อได้ว่าไม่ค่อยมีคนพิถีพิถัน และรู้วิธีที่ถูกต้องในการล้างหน้า เรามาดูกันค่ะ อะไรไม่ควรทำในการล้างหน้า เพื่อคงให้ผิวหน้าอันบอบบางของเราใสไร้สิว ผิวนุ่มเด้งตลอดทั้งวัน


  • ใช้ผ้าเช็ดหรือซับแรงๆ วิธีนี้ เป็นวิธีที่ผิดมาก และ เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดสิวผิวชั้นนอก จะได้รับการระคายเคืองเป็นอย่างมาก และยังช่วยกระตุ้นให้สิว ที่กำลังจะยุบตัวลงเกิดการอักเสบ และ ลุกลามกลายเป็นสิวอุตตันได้ วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ ใช้กระดาษนุ่มๆ ซับผิวหน้าเบาๆ หรือใช้สำลีเช็ดผิวหน้าเบาๆ ก็เพียงพอแล้ว
  • การล้างหน้าด้วยโฟมที่มีเม็ดสครับหรือเม็ดบีดส์ เป็นข้อควรระวังเป็นอย่างมากสำหรับ คนที่เป็นสิว เพราะจะทำให้สิว ยิ่งเกิดการอักเสบระคายเคือง ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ ประเภทโฟมล้างหน้าที่มีบีทผสมอยู่
  • ใช้ฝักบัวล้างหน้า การใช้ฝักบัวล้างหน้า ทำให้รู้สึกสะดวกและสบาย แต่ด้วยแรงดันของน้ำทำให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิว

ทำแบรนด์สบู่ หรือ AddLineID > @chivalabcare (มี @ นำหน้าไอดีด้วยจร้า)

ข้อมูลจาก https://www.sanook.com/women/135413/



วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2562

เคล็ดลับเปลี่ยนผิวคล้ำเป็นผิวอมชมพูแบบธรรมชาติ


ผิวหน้า ผิวกายที่ต้องออกแดดเป็นประจำ ทำให้ผิวคล้ำหมองได้ง่าย แต่เรานั้น มีวิธีเคล็ดลับผิวสวยได้เพียงตามตามนี้ ผิวจะค่อยๆ ฟื้นฟู ขาวสดใส อมชมพูขึ้น ทันตาเห็น

  • น้ำมะเขือเทศ หากไม่สดวกในการซื้อสดมาบดเอง ก็สามารถใช้แบบกล่องได้ นำมาพอกไว้บนผิวเพียง 15 นาทีเท่านั้น ผิวจะค่อยๆ กลับมาขาวใสอมชมพูได้เลยนะคะ #กรันตรีได้ผล
  • ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เป็นวิธีที่ง่ายแสนง่าย เพียง น้ำผ้าขนหนูสะอาด ผิวไม่หยาบ มาบิดกับน้ำอุ่นให้หมาด และ ประคบ บนผิวหน้า เพียงเท่านี้ ก็กระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือดฝาดได้เป็นอย่างดี แนะนำ ว่า ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพียงเท่านั้น
  • การนวดกดจุดบนใบหน้า รู้หรือไม่ว่าการนวดกดจุดบนใบหน้านั้นสามารถช่วยให้ผิวหน้าและดูใสอมพูได้ เพราะการนวดจะไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ชั้นผิวหนัง อีกทั้งยังเป็นการบริหารกล้ามเนื้อไปในตัว เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางทั้งสองข้างกดเบาๆ ที่บริเวณริมฝีปากก่อน จากนั้นก็เลื่อนไปที่บริเวณแก้มจนถึงกรอบหน้า แล้วนวดเลื่อนกลับลงมายังบริเวณริมฝีปากอีกครั้งทำแบบนี้เป็นประจำก่อนเข้านอน ก็จะช่วยให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง กระตุ้นให้มีเลือดฝาดอมชมพูได้ไม่ยาก
ข้อมูล เคล็ดลับดูแลผิว จาก https://www.sanook.com/women/135235/
แนะนำผลิตภัณฑ์ เซรั่มบำรุงผิว จาก Estee เป็นเซรั่ม ที่มีคุณสมบัติ บำรุงผิวกลางคืน ฟื้นฟูผิวเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น ลดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำได้เป็นอย่างดี 

 ขาย เซรั่ม Estee บำรุงเพียงชั่วข้ามคืน

AddLineID >> @pinpurishop (มี @ นำหน้าไอดีด้วยจร้า)

สอบถาม ปรึกษา ผลิตภัณฑ์ฟรี

เพียงวิธีง่ายเหล่านี้ก็ทำให้สาวๆ มีผิวที่ขาวอมชมพูเลือดฝาดได้อย่างง่ายดาย 

 สูตรตัวอย่างเซรั่มบำรุงผิว






วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2562

ผิวขาวสวย ด้วยการออกกำลังกาย 5 แบบนี้



5 เคล็ดลับออกกำลังกายยังไงให้ผิวสวยสมวัย ไม่แก่เร็ว
5 เคล็ดลับการออกกำลัง เพื่อผิวที่ขาวสวย กระชับ ทำง่ายๆ สามารถทำได้เองที่บ้าน

1.ไม่ควรเล่นเวทหักโหมเกินไป
การเล่นเวทเป็นการสร้างกล้ามเนื้อให้กระชับสมส่วนก็จริง แต่หากคุณเล่นเวทด้วยการหักโหมมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกายลดน้ำหนักใหม่ๆ ร่างกายก็จะไปดึงเอาพลังงานในส่วนต่างๆ มาใช้เป็นจำนวนมาก จึงกลายเป็นสาเหตุว่าทำไมยิ่งเล่นหนักร่างกายและใบหน้ายิ่งโทรมหรือแก่ก่อนวัย
2.ไม่ควรคาร์ดิโอหนักเกินไป
การคาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกายลดน้ำหนักเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น วิ่งหรือปั่นจักรยาน แต่หากคุณคาร์ดิโอเกินความจำเป็น ก็อาจจะทำให้เกิดสภาวะสูญเสียกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เซลล์ต่างๆ ถูกทำลายลงด้วย อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หลังจากคาร์ดิโอแล้ว คุณจะพบว่าผิวพรรณสดใสและเต่งตึงน้อยลง

3.ควรออกกำลังกายให้หลากหลาย
บางครั้งการเข้ายิมเพื่อออกกำลังกาย หลายคนอาจจะเล่นเครื่องออกกำลังกายเพียงแค่เครื่องเดียว ซึ่งการเล่นเครื่องเดิมๆ นานๆ จะทำให้เกิดการเผาผลาญที่ไม่หลากหลาย ไม่เกิดการบริหารครบทุกส่วน ทำให้ไม่สามารถเบิร์นแคลอรี่ได้ตามต้องการ ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งความไม่กระชับ ส่งผลให้ผิวหนังบางส่วนหย่อนย้อย ไม่กระชับสวยงามนั่นเอง


 ขายส่งสบู่หน้าใส


4.ไม่ควรออกกำลังแบบ Low-Impact เพียงอย่างเดียว
หลายคนมักจะคุ้นเคยกับการออกกำลังแบบ Low Impact ซึ่งเป็นการออกกำลังกายลดน้ำหนักที่หลีกเลี่ยงแรงกระแทก หรือการออกแรงหนักๆ เช่น การเดิน, เล่นโยคะ, การสควอช ซึ่งการออกกำลังกายประเภทนี้เพียงอย่างเดียว จะทำให้ร่างกายไม่เกิดความคล่องตัวเท่าที่ควรในการทำกิจกรรมต่างๆ ส่งผลให้ผิวพรรณอาจจะไม่กระชับขึ้นจากการเผาผลาญที่ครบถ้วน

5.หมั่นบริหารกล้ามเนื้อด้วย
การตั้งหน้าตั้งตาเบิร์นไขมันเพียงอย่างเดียว โดยไม่เคยบริการกล้ามเนื้อเลย เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูโทรมและเหี่ยวลง ดังนั้น หากต้องการได้ประสิทธิภาพจากการออกกำลังกายลดน้ำหนักสูงสุด ควรหมั่นบริหารกล้ามเนื้อบ้างเป็นดีที่สุด





วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562

ผิวใสแบบสาวเกาหลีด้วย อาหาร 3 สิ่ง


ผิวขาวใส แบบสาวเกาหลี ได้เพียงรู้เคล็ดลับผิวสวย การเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และทำจิตใจให้ผ่องใส ทำเพียงเท่านี้ ก็มีผิวสวยสดใสได้

แนะนำอาหารสำหรับผิวขาวใส

1. มะเขือเทศบำรุงผิวขาวใส  

มะเขือเทศ เป็นพืชที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ อุดมไปด้วยวิตามินซีและไลโคปีนที่สูงมาก หากสาวๆ รับประทานเป็นประจำรับรองเลยว่าผิวพรรณจะดูอ่อนกว่าวัย กระจ่างใสมากขึ้นและยังสารอาหารเหล่านี้จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากสาวๆ ไม่ชอบรับประทานมะเขือเทศแบบเป็นลูก ลองหาซื้อน้ำมะเขือเทศแบบสำเร็จรูปเป็นกล่องที่มีวางจำหน่ายทั่วไปมาลองดื่ม ผสมกับน้ำผลไม้อื่นๆ เพื่อให้ดื่มได้ง่ายขึ้นลองดูก่อนก็ได้

2. ฟักทองบำรุงผิวขาวใส


ในฟักทองอุดมไปด้วยสารแคโรทีนอยด์ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวให้สาวให้ดูมีสุขภาพดี เพิ่มความแข็งแรงให้เซลล์ผิว สามารถปกป้องผิวจากรังสี UV ช่วยป้องกันไม่ให้คอลลาเจนในผิวหนังถูกทำร้าย นอกจากนี้ก็ยังมีวิตามินซีที่มีส่วนช่วยให้ผิวกระจ่างใส สามารถทำรับประทานได้ด้วยการนึ่ง หรือจะลองนำมาบดให้เป็นเครื่องดื่ม ก็อร่อยไม่แพ้กัน

3. แตงกวาบำรุงผิวขาวใส


แตงกวาอุดมไปด้วยน้ำเป็นองค์ประกอบหลักภายในเนื้อเยื่อของมันเอง ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายได้รับน้ำเพิ่มมากขึ้น มีส่วนช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง ไม่แห้งกร้านเพราะภาวะขาดน้ำ นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีและเส้นใยธรรมชาติที่ช่วยกักเก็บน้ำในร่างกาย หากสาวๆ รับประทานแตงกวาเป็นประจำทุกวัน จะช่วยบำรุงผิวให้ดูขาวใส ชุ่มชื้น และมีสุขภาพดีได้แบบง่ายๆ


ครีมบำรุงผิวขาวเนียนใส ทาบางๆ ก่อนนอน ครีมสาหร่าย ขายส่งครีมสาหร่าย