วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

17 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?

เช็กอาการคนท้องในระยะเริ่มแรก 1-2 สัปดาห์ หรือ ท้องเดือนแรกๆ ส่วนใหญ่จะมีอาการอย่างไร และหากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?

อาการคนท้อง นอกจากอาการคลื่นไส้อาเจียน ในระยะ 1-2 สัปดาห์ แต่ละคนอาจจะมีอาการไม่เหมือนกัน  บางคนมีอาการแพ้ท้องมาก หรือ บางคนอาจจะไม่มีอาการแพ้ท้องเลยก็มี แต่ก็อาจจะมีบางคนที่มีอาการแปลกๆ ซึ่งอาจจะไม่แน่ใจว่า กำลังท้องหรือไม่ ดังนั้นอาการที่บอกว่าตั้งครรภ์ในระยะ 1-2 สัปดาห์แต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน แต่ในทางการแพทย์ก็มีลักษณะบางอย่างที่ร่างกายแสดงออกมา ที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็น อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หรือ ท้องเดือนแรกๆ จะมีอาการอย่างไรบ้างนั้น วันนี้เราจึงรวบรวม อาการคนท้อง มาแบ่งปันให้คุณแม่ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ

17 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?

ประจำเดือนขาด

โดยปกติผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาในระยะ 21-35 วัน และจะมาในเวลาใกล้เคียงกันในทุกๆ เดือน แต่ถ้าหากว่า มีอาการประจำเดือนขาด สำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติถ้าประจำเดือนที่เคยมาเป็นปกติขาดหายไป รอแล้วรอเล่าไม่มาสักที แสดงว่าคุณอาจจะกำลังมีการตั้งครรภ์ เพราะหลังจากการปฏิสนธิแล้ว ประจำเดือนจะขาดหายไป แนะนำให้ไปซื้อเครื่องตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ

มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น

เนื่องจากฮอร์โมนจะเริ่มเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์ จึงทำให้มีการหลั่งของพวกสารต่างๆ รวมทั้งมีตกขาวในช่องคลอดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นช่วงที่มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องหมั่นดูแลเรื่องความสะอาดให้ดี จะต้องล้างและซับให้แห้งสนิททุกครั้ง แต่ไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นแต่อย่างใด เพราะอาจไปฆ่าเชื้อดีๆ ที่ช่วยป้องกันเชื้อร้ายออกไปได้ และที่สำคัญห้ามสวนล้างช่องคลอดเด็ดขาด

เหนื่อยง่ายหายใจถี่

เนื่องจากตัวอ่อนที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ในท้องของคุณแม่นั้นมีความต้องการออกซิเจนจากคุณแม่ จึงทำให้คุณแม่หายใจถี่และรู้สึกเหนื่อยได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งมีแรงกดดันต่อปอดและกระบังลมของคุณแม่ไปด้วย

มีอาการเริ่มคัดเต้านม

อาการคัดเต้านมจะมีความคล้ายกับตอนมีประจำเดือน และสามารถสังเกตเห็นได้ว่าเต้านมจะมีขนาดใหญ่ รู้สึกหนัก รอบหัวนมจะมีสีคล้ำกว่าเดิม และบริเวณผิวหนังของเต้านมจะบางลงจนมองเห็นหลอดเลือดดำได้อย่างเด่นชัดมาก

รู้สึกเมื่อยล้าได้ง่าย

การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกจะทำให้คุณแม่รู้สึกเมื่อยล้าได้ง่าย พร้อมทั้งมีอาการอ่อนล้าและหมดแรง แต่อาการคนท้องลักษณะนี้จะดีขึ้นเมื่ออายุตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สอง

เริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน

โดยปกติเมื่ออายุครรภ์เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 คุณแม่ตั้งครรภ์จะเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งอาการนี้จะดีขึ้นเมื่อการตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สอง แต่ในบางรายจะพบกับอาการคนท้องดังกล่าวตั้งแต่รอบเดือนหายไป

ปัสสาวะบ่อย

เนื่องจากร่างกายที่อยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์จะมีการสร้างของเหลวมากขึ้นกว่าเดิม และเลือดเกิดการไหลเวียนมากขึ้น นั่นจึงส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย

อาจจะปวดหัวได้เป็นบางเวลา

อาการปวดหัวถือเป็นหนึ่งในอาการคนท้องที่ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ ซึ่งฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของการใช้ยาคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

เริ่มมีอาการปวดหลัง

อาการปวดหลังคืออาการคนท้องที่เกิดขึ้นได้ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะน้ำหนักตัวของคุณแม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งศูนย์กลางของการทรงตัวของคุณแม่เปลี่ยนไปจากเดิม ส่งผลให้การยืน นั่ง หรือเดินเปลี่ยนแปลงไปด้วย

ปวดเกร็งในช่องท้อง

ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะมีอาการปวดเกร็งในช่องท้องคล้ายกับตอนปวดประจำเดือน และหากมีอาการปวดหน่วงๆ เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการขยายตัวของมดลูก

เริ่มต้นช่วงแรกจะมีอาการอยากกินอาหารรสเปรี้ยว

ความอยากอาหารของคุณแม่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ โดยส่วนใหญ่จะต้องการอาหารรสเปรี้ยว และมักจะมีอาการคลื่นไส้เมื่อได้กลิ่นปลา

มีอาการท้องผูก

ฮอร์โมน progesterone จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้อาหารย่อยได้ช้าและมีแก๊สอยู่ในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการท้องผูกได้อีกด้วย

อารมณ์เสียง่าย หงุดหงิดได้ง่าย

คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงและมักจะอารมณ์เสียง่าย เนื่องจากระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งร่างกายพยายามปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่

อุณหภูมิในร่างกายสูง

ร่างกายของคุณแม่จะมีอุณหภูมิสูง และรู้สึกร้อนได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงและใช้พลังงานมากขึ้นนั่นเอง

มีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

การตั้งครรภ์จะส่งผลให้คุณแม่มีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่ากลิ่นนั้นจะมีกลิ่นหอมหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ก็ตาม

เกิดอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะได้ง่าย

น้ำตาลในเลือดหรือความดันโลหิตจะลดลงในช่วงตั้งครรภ์ นั่นจึงทำให้คุณแม่มีอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะได้ง่าย แนะนำให้คุณแม่หมั่นดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ดี

อาจจะมีเลือดออกกะปริดกะปรอย

ในระยะแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีเลือดออกกะปริดกะปรอยโดยที่ไม่มีอาการปวดเกร็งท้องเลย คุณแม่ควรสังเกตอาการให้ดี หากมีเลือดออกไม่หยุดควรรีบพบแพทย์ทันที

อาการคนท้อง ทั้ง 17 อาการที่เราได้นำมาแบ่งปันให้คุณแม่ทุกท่านได้ทราบนั้น อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ในแต่ละคนด้วยอาการที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสังเกตแต่ละอาการให้ดี รวมทั้งการกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สุขภาพร่างกายในขณะตั้งครรภ์แข็งแรงอยู่เสมอ ฉะนั้นเรามีอาหารแนะนำสำหรับคุณแม่ ที่เริ่มตั้งครรภ์ ที่ควรทานมีอะไรบ้าง


อาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทาน

อาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก 

อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก จะช่วยในเรื่องของการบำรุงเลือดให้กับคุณแม่ ช่วยลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งผ่านรกเข้าไปสู่ทารกน้อยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นสารอาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกน้อยด้วย

อาหารประเภทโปรตีน 

เนื่องจากอายุครรภ์ 2 เดือน ทารกน้อยจะเริ่มมีการสร้างอวัยวะต่างๆ ซึ่งโปรตีนจัดเป็นอาหารที่ช่วยในการสร้างอวัยวะต่างๆ ของทารกในครรภ์ได้ดีมากๆ

อาหารจำพวกแคลเซียม 

แคลเซียมคือสารอาหารที่มีความโดดเด่นในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อของทารกในครรภ์อีกด้วย

อาหารที่ให้วิตามินบี2 

อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี2 มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกน้อยในครรภ์ ซึ่งถือเป็นสารอาหารที่คุณแม่ควรได้รับตลอดการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้

อาหารที่มีกรดโฟลิก 

อาหารที่มีกรดโฟลิกจะช่วยให้เซลล์แต่ละตัวของตัวอ่อนมีความแข็งแรง ซึ่งหากคุณแม่ไม่ได้รับสารอาหารชนิดนี้ อาจเสี่ยงต่อการทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทของลูกน้อย และยังเสี่ยงเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดด้วย

แนะนำช้อมูลสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์

อาหารที่แม่ท้องควรทานเพื่อบำรุงทารกในครรภ์ให้แข็งแรงสมบูรณ์

อาหารที่แม่ท้องควรกินและควรหลีกเลี่ยง ในช่วงอายุครรภ์ 3 เดือน

เรื่องน่ารู้สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น